ชายอ้างตัวเป็นตำรวจ สน.ประเวศ ทำร้ายพ่อลูก หน้าจ๋อยยกมือไหว้ โดนข้อหาหนัก

ชายอ้างตัวเป็นตำรวจ สน.ประเวศ ทำร้ายพ่อลูก หน้าจ๋อยยกมือไหว้ โดนข้อหาหนัก

จากกรณีคลิปร้อนบนโลกออนไลน์ บันทึกเหตุการณ์ขณะชายขับรถกระบะอีซูซุ (นายพลวัฒน์) สีดำเข้ามาหาเรื่องชายคนขับรถกระบะ(นายขวัญใจ) เนื่องจากไม่พอใจที่รถกระบะขับออกมาจากซอยกะทันหันทำให้เขาต้องเบรกตัวโก่ง นายพลวัฒน์ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ และใช้มือตบที่ศีรษะนายขวัญใจถึง 2 ครั้ง พูดจาข่มขู่ให้ตกใจว่า “อยากตายหรือไม่” และจะตรวจสารเสพติดนายขวัญใจ กับพวกที่นั่งมาในรถ แต่นายขวัญใจบอกว่าไม่ได้เสพยาเสพติด ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. หน้า ซ.พัฒนาการ 58 แขวง/เขต สวนหลวง กรุงเทพ

คืบหน้าล่าสุดจากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า นายพลวัฒน์ กรณ์นันทลักษณ์ 

ไม่ได้เป็นตำรวจตามที่กล่าวอ้าง แต่ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว ที่อ้างเป็นตำรวจเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายมีอาวุธ ตำรวจจึงได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาปรับความเข้าใจกัน นายพลวัฒน์ยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะความอารมณ์ร้อนของตัวเอง จะเก็บเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน และได้ขอโทษนายขวัญใจ กงกวยกับลูกชายซึ่งมานั่งรถกระบะวันเกิดเหตุ

ด้านนายขวัญใจ กงกวย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ได้ขับรถออกจากซอยพัฒนาการ 58 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเตรียมจะกลับรถ ไม่เห็นรถคู่กรณีว่าขับตรงมาด้วยความเร็วและเบรกกระทันหัน ยอมรับว่าได้ยินเสียงเบรค แต่ไม่คิดว่าตนจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้รถนายพลวัฒน์เบรกกระทันหัน จึงไม่ได้จอดลงไปดูหรือขอโทษ จนนายพลวัฒน์ขับตามมาปาดหน้าให้หยุด และเกิดการทำร้ายร่างกายตามที่เห็นในคลิป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดี​ 4 ข้อหากับนายพลวัฒน์ ได้แก่ ข้อหาทำร้ายร่างกาย, ข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน​ แอบอ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ,  ข้อหาข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว​ และข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า

คนขับแท็กซี่ขอแจง ภาพเซลฟี่ผู้โดยสารแหกขาโป๊ ‘เสพข่าวอย่างมีสตินะครับ’

แท็กซี่เซลฟี่ – จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Taxi report TH โพสต์ภาพเซลฟี่ของชายคนขับแท็กซี่กับผู้โดยสารสาวเบาะหลัง ซึ่งนั่งในลักษณะฉีกขา และด้วยกระโปรงสั้นทำให้ภาพออกมาดูโป๊

ระบุว่า “ด่วน! ประกาศตามล่าตัว คนขับแท็กซี่หื่น(ในภาพ) มีพฤติกรรมโรคจิต ถ่ายภาพกางเกงในผู้โดยสารสตรี โดยตั้งใจถ่ายในขณะที่สตรีโดยสารนั้นเผลอนั่งยกขา และได้นำภาพถ่ายเซลฟี่ดังกล่าวไปแชร์เพื่ออวดเพื่อนพ้องวงการแท็กซี่สายดาร์ก ใครพบเห็น และ ทราบข้อมูล เบาะแส คนขับโรคจิตในภาพ กรุณาแจ้งเข้ามาด่วน ทางเพจจะนำไปส่งเรื่องดำเนินคดีร้ายแรง โรคจิต-หื่น แบบนี้ไม่สมควรขับรถบริการอีกต่อไปแล้ว”

“ด่วน นักสืบพลเมืองดีช่วยกันสืบจนพบแท็กซี่หื่น ก่อเหตุจงใจถ่ายกางเกงในผู้โดยสารสตรี เจ้าตัวยอมรับในแชทข้อความว่า เป็นคนถ่ายภาพดังกล่าว แถมยังแก้ตัวเหมือนคนกระทำผิดทั่วไปว่า

“เหรียญนั้นมีสองด้าน” น่าสงสัยยิ่งนักว่า ถ่ายภาพเซลฟี่ตนเองพร้อมแอบถ่ายอนาจารผู้โดยสารขนาดนี้และเผยแพร่ภาพออกมาผ่านกลุ่มแท็กซี่สายดาร์ก มันจะมีสองด้านได้อย่างไร สังคมชาวโซเชียล ต้องการคำอธิบายด่วน ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไรเจ้าตัวแท็กซี่หื่นควรรีบมาอธิบาย ก่อนโดนชาวไทย ชาวโซเชียลประหารในโลกออนไลน์

ด้านคนขับแท็กซี่เจ้าของรูปก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า

“เสพข่าวอย่างมีสตินะครับ สำหรับเรื่องราวที่มีอยู่ในขณะนี้ มันมีที่มาที่ไปครับ และภาพที่ออกไป ไม่ได้มีในกลุ่มสายดาร์กอะไรแต่อย่างใด เพียงแต่มีในกลุ่มที่หนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเรื่องงาน

ยืนยันว่าไม่ได้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่ในสาธารณะ มีผู้นำภาพไปใช้ในเพจที่แอบอ้างการร้องเรียนรถสาธารณะซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับจนท.ใดๆ ภาพมีมาระยะนึงแล้ว นานพอสมควร และในด้านอีกด้านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้วิจารณ์คนด้านหลังในด้านลามก

ขอบคุณทุกๆท่านที่มาให้กำลังใจ ส่วนอีกด้านหนึ่งซึ่งกำลังสนุกกับการวิจารณ์ขอให้พวกท่านเสพข่าวอย่างมีสติ นะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง เพจที่เริ่มต้นสร้างข่าวดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับจนท.แต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไร ผมเข้าพบจนท.ไว้เบื้องต้นแล้ว เตรียมดำเนินเรื่องกลับไปทันที ยังไงมีอะไรจะมาชี้แจงครับ เหรียญมีสองด้านเสมอ”

ขณะที่ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดวท.กล่าวเกี่ยวกับงบประมาณในเบื้องต้นว่า งบฯของปี 2562 นั้น แต่ละหน่วยงานจะจัดการไปตามปกติ แต่งบฯของปี 2563 จะเริ่มตั้งเป็นงบฯของอว.

จำเลยทั้ง 6ให้การทำนองเดียวกันว่าจำเลยทั้ง 6ไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะความ เสียหายจากการวางเพลิงเผาอาคารของโจทก์ที่ 1 และทรัพย์สินของโจทก์ทั้ง 3 ที่อยู่ในอาคารของโจทก์ที่ 1 เกิดจากการก่อความไม่สงบของประชาชนที่ถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาลและเป็นการก่อการร้ายเข้าข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย